......ครั้งแรกที่ใช้บริการ Philipine airline ซึ่งแผนการเที่ยวเราจะต้องไปลงที่ Nagoya ขอบอกว่า transit time แบบนาน โคตรๆ
.....เวลาไม่ดี...แต่ราคาถูกเพียงหมื่นบาท!!!ในช่วงสงการต์.... เป็นราคาที่ถูกกว่า low cost อีก..ยอมคะ เป็นอย่างไรไปดูกัน
แต่ถ้าลง osaka หรือ Tokyo ก็ไม่นานแบบนี้นะก๊าบ...ไปดูกันว่าเป็นอย่างไร
......ก่อนเดินทาง มีข้อมูล review สายการบินนี้น้อยมาก …
จึงวางแผนว่า...พอเช้าออกไปเที่ยว Manila แล้วกลับมาขึ้นเครื่องตอนเที่ยง .... ไปดูจิ๊ว่าเมืองนี้หน้าตาเป็นอย่างไร....
😁ที่สนามบินสุวรรณภูมิ😀
ยื่นเอกสาร ที่ Check-in online (ที่เว็บ https://www.philippineairlines.com/en) เพื่อจะได้เร็วขึ้น
แล้วเจ้าหน้าที่ ก็ให้ Boarding pass 2 ชุดคือ Bkk-Manila และ Manila-Nagoya
โดยนางแจ้งว่า ขากลับที่ไป transit ที่เซบู ต้องเตรียมเงิน 750 เปโซ ค่าภาษีสนามบินด้วยนะคะ ..สามเฒ่าเตรียมมาแย้ว..
ดังนั้นถ้าใคร tranit ที่ เซบู ต้องเตรียมเงินค่าภาษ๊สนามบินด้วยนะ..
💁 ใครที่ transit ที่ เซบู มีคนเขียนละเอียดเรียบร้อย..อ่านต่อที่
https://pantip.com/topic/37643065?utm_source=facebook&utm_medium=pantip_travel&utm_content=get&utm_campaign=37643065
สำหรับเรื่อง Drop กระเป๋า ซึ่ง Philippine airline ให้ load กระเป๋าได้ 2 ใบ น้ำหนักไม่เกินใบละ 23 กก.
🏬 การเที่ยวญี่ปุ่น กระเป๋าคนละใบ ไม่พอแน่ ต้องเกิดอาการกระเป๋างอก เพราะที่ญี่ปุ่น มีของน่าซื้อมากกกกกก 🏬
😟 ถ้าทุกคน มีคนละ 2 ใบใหญ่ ที่แต่ละใบมีขนาดผลรวม กว้าง+ยาว+สูง = 150 ซม. .... 💣ต้องเกิดปัญหา 💢
...💫 ไม่มีพื้นที่เก็บในรถ ขณะเที่ยวอย่างแน่นอน 💫..
🚙 สามเฒ่าพาเที่ยว เลือกเช่ารถ แบบ Station wagon ที่สามารถเก็บกระเป๋าใบใหญ่ได้ แต่ได้เพียง่ 3 ใบ
🔧 ทางแก้ : ขาไปของน้อย ใส่ใบที่เล็กกว่า แล้วใส่ซ้อนลงไปในกระเป๋าใหญ่.. จะได้เอากระเป๋าใส่ในรถได้
...พอวันใกล้กลับ ก็ เอาของShopping ใส่ใบใหญ่ ..แค่นีก็โอแย้ว...
🍧🍨มีอาหาร และๆๆๆๆ "ไอติม "...ชอบๆ ตรงไอติมนี่แหระ🍦😍
ถ้าข้างๆ มีเสียงรบกวน...สามารถขอที่อุดหุได้นะคะ..ต้องขอนะคะ..
ออกจากเครื่องบิน เดินตามทางที่จะเข้า ตม.
⛔..อย่าเพิ่งผ่านเข้า ตม. นะ เพราะเราไม่ได้จองโรงแรม.⛔.
สามเฒ่าจะนอนด้านในนี้ก่อน กลัวคนขโมยของตอนหลับ ถ้าไปนอนข้างนอก...ต้องหาที่นอนข้างในนี้....เราจะออกตอนเช้า...
....ก่อนจะเข้าแถวที่ด่าน ตม. จะมีห้องรับรองของ Philippine airline อยู่ทางซ้ายมือ
👄จึงเข้าไปสอบถามว่าจะขอพัก แล้วรอเช้า เพื่อออกไปช้างนอก ตามที่กะไว้ในตอนแรก
....แต่!!! เจ้าหน้าที่ตอบมาว่า:
“ถ้าจะพักที่ห้องรับรอง ก็พักเลย แล้วรอเวลาเครื่องออก ไม่เช่นนั้นก็ต้องออกไปเลย เพราะเจ้าหน้าที่ ตม. ไม่ได้อยู่ตลอดเวลา”
สามเฒ่า+1: “เอาอย่างไรดี...ไม่ได้จองโรงแรม... เอาละวะนอนที่นี้ก็แล้วกัน”
...ก็ทำการยื่น boarding pass และ passport แล้วเจ้าหน้าที่ก็คืนแต่passport ...
....ที่ห้องพัก ก็ ok ....มีเตียงที่นอน ขอหมอ ผ้าห่มได้
มีห้องน้ำ ห้องอาบน้ำ 💤💤
🍔🌭🍹🍊แล้วพอตอนเช้า มีพนักงานมาถามว่าจะburger or sandwich ส่วนเครื่องดื่มก็มีกาแฟ หรือ น้ำอัดลม และ ผลไม้ 1 กล่อง
ระหว่างนอนอืด...รอเครื่อง.. ก็ได้ internet ทำให้ดูละครดังแห่งปี "บุเพสันนิวาส" กำลังฉายอยู่ .....ทำให้ไม่น่าเบื่อ....
พออีก ประมาณ 1-2 ชั่วโมง มีเจ้าหน้าที่มาบอกเราว่าใกล้ถึงเวลาเดินทาง พร้อมกับเอา Boarding มาคืน.
...แหมๆๆๆๆ..มีการจับเป็นตัวประกัน คริๆ...
🚶 พอเดินออกมานอกห้อง ก็จะมีการตรวจสัมภาระที่ติดมา 👜
🚶 ขึ้นลิฟไปชั้น 3 แล้วเปิดประตูออกไป ก็จะเป็น บริเวณ Gate แล้ว
แต่ต้องมองหาป้ายที่แสดง gate ของสายการบินต่างๆด้วยนะ เพราะ gate No.มันไม่ตรงกับใน Boarding pass ที่ออกที่ กรุงเทพ
เครื่องบินออกตามเวลา....เห็นวิวเมือง มะนิลา...เมื่อใหญ่อยู่นะ ตึก อาคารบ้นเรือนแน่นอยู่ (ดูใน Clip นะ)
พอเครื่องไต่ระดับได้เรียบร้อย ก็ถึงเวลา แจกอาหาร...มื้อนี้ชอบมากเลือก Set แบบญี่ปุ่น..อร่อยมากเลยอะ..
...ในที่สุดก้ถึง Nagoya เป้นการเดินทางมาญี่ปุ่นที่นานที่สุด...
....เพื่ออรรธรส..ดูต่อใน Clip..
>>> ไปเข้าเมืองกันต่อเลย....Click >>Ep.02: จากสนามบิน นั่งรถไฟเข้าเมือง Nagoya
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น